![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/0_กัญขาประกอบไปด้วยอะไรบ้าง.jpg)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/1_ช่อดอก.png)
ลักษณะทั่วไปของกัญชา
ส่วนของช่อดอก : มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่มีดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกัน (monoecious) และชนิดดอกเพศผู้และเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น (dioecious) ในประเทศไทยพบว่าพืชกัญชามีดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกเพศผู้ ช่อดอกเพศผู้เป็นแบบ panicle ประกอบไปด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกกันเป็นอิสระมีสีเขียวอมเหลือง พบเกสรเพศผู้ 5 อัน ระยะเวลาการบานประมาณ 2 เดือน ดอกเพศเมีย : เกิดตามซอกใบและปลายยอด ในบริเวณช่อดอกจะอัดตัวกันแน่น ช่อดอกเป็นแบบ spike ประกอบด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียวเข้มห่อหุ้มรังไข่ไว้ ภายในมี stigma 2 อัน สีน้ำตาลแดง อายุของดอกค่อนข้างสั้นประมาณ 3-4 สัปดาห์ และมี Glandular trichomes เป็นส่วนของพืชกัญชาซึ่งมีอยู่หนาแน่นในบริเวณที่ช่อดอก
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image008-1024x600.jpg)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image010.jpg)
ช่อดอกกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image012.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image014.png)
ช่อดอกกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ซ้าย) และ 300x (ขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image016.png)
ส่วนของหน้าใบ
ใบของกัญชาเป็นใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบแตกออกเป็นแฉก ๆ ประมาณ 5-8 แฉก แต่ละแฉกเป็นรูปยาวรี ปลายและโคนขอบ ส่วนขอบใบทุกแฉกเป็นหยักแบบฟันเลื่อย มีขนาดกว้างประมาณ 0.3-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ลักษณะของใบโดยรวมจะคล้าย ๆ กับใบละหุ่ง ใบฝิ่นต้น และใบมันสำปะหลัง ผิวใบด้านบนมีตุ่มเป็นสีเขียวเข้ม มีขนต่อม Trichomes กระจายทั่วผิวใบด้านบน
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image018.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image020-1024x706.jpg)
หน้าใบกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image024.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image022.png)
หน้าใบกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ด้านซ้าย) และ 300x (ด้านขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image028.png)
ส่วนของหลังใบ
ส่วนด้านล่างท้องใบมีสีเทาอ่อนเล็กน้อย ส่วนด้านล่างมีขนอ่อนนาบไปกับแผ่นใบ ก้านใบยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร ในก้านหนึ่งจะมีใบเดี่ยว 3-11 ใบ มีกลิ่นเหม็นเขียว ด้านล่างของใบกัญชาพบโครงสร้างของเซลล์ป้องกันสองประเภท ประเภทแรก เข็มสูงเช่นไตรโคเมอร์ และประเภทสองต่อมลักษณะกลม เช่นไตรโคเมียร์ต่อม เป็นแหล่งที่มาของ THC (Tetrahydrocannabinol) สารเคมีออกฤทธิ์ทางจิตในพืชกัญชา และพบ CBD (Cannabidiol) มีคุณสมบัติลดอาการเจ็บปวด และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image026.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image030.jpg)
หลังใบกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image034.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image032.png)
หลังใบกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ซ้าย) และ 300x (ขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image036.png)
ส่วนของลำต้น
พบว่าลำต้นตั้งตรง สีเขียว เมื่อแห้งจะเป็นสีน้ำตาล สูงประมาณ 1-3เมตร มีลักษณะอวบน้ำเมื่อเป็นต้นกล้า เริ่มมีการสร้างเนื้อไม้เมื่อเจริญได้ 2-3 สัปดาห์ มีความสูงเฉลี่ยคงที่ คือ ประมาณ 200ซม. สำหรับต้นกัญชาตัวผู้ จะมีเม็ดกลมเล็กๆ บริเวณก้านใบติดกับลำต้น ส่วนกัญชาตัวเมียจะมีดอกเป็นฝอยสีขาว และยังมีกัญชากะเทยที่มีทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกันเนื่องจากมีการออกดอก ผิวของลำต้นจะพบ Trichomes เปลือกของลำต้น สามารถลอกออกเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใย โดยเปลือกนอก ให้เส้นใยที่ยาว เหนียว แต่ค่อนข้างหยาบ ส่วนเปลือกในที่ติดกับเนื้อไม้ ให้เส้นใยที่ละเอียดกว่าแต่สั้นเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image038-1024x664.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image040-1024x617.jpg)
ลำต้นกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image042.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image044.png)
ลำต้นกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ด้านซ้าย) และ 300x (ด้านขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image046.png)
ส่วนของเมล็ด
เป็นเมล็ดเดี่ยว ผลกัญชา ผลแห้งขนาดเล็ก เมล็ดล่อน ไม่แตก ลักษณะของผลเป็นรูปไข่กว้าง ผิวผลเรียบเป็นมัน สีน้ำตาลแกมเทาหรือสีเทาเข้ม มีใบประดับหุ้ม ในผลจะมีเมล็ดขนาดเล็ก เมล็ดมีลักษณะกลม รูปไข่ป้อม ขนาดประมาณ 3-4 มม. มีน้ำหนักเฉลี่ย 8-24 กรัมต่อเมล็ด 1000 เมล็ด เมล็ดจะออกประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ หลังออกดอก น้ำมันที่ได้จากเมล็ดจะเป็นน้ำมันไม่ระเหย (fixed oil) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ใช้ทำสีทาบ้าน ทำสบู่ รสชาติของเมล็ดกัญชา มีรสหวาน ใช้ในอาการที่เกี่ยวกับกระเพาะ และลำไส้ใหญ เพื่อรักษาอาการท้องผูก
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image048.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image050.png)
เมล็ดกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image052.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image054.png)
เมล็ดกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ด้านซ้าย) และ 300x (ด้านขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image056.png)
ส่วนของราก
รากเป็นส่วนที่ดูดซึมสารอาหารเพื่อไปหล่อเลี้ยงลำต้น ใบและดอกของกัญชา ดังนั้นไม่แปลกที่รากกัญชาจะมีสารอาหารโคลีน (choline) ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็น และเป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทอะซีทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสำคัญต่อการพัฒนาและรักษาเซลล์ให้สุขภาพดี และรากกัญชา เป็นระบบรากแก้ว (Tap root system) มีรากแขนงจำนวนมาก รูปแบบการใช้นั้นมีอยู่หลากหลาย แต่วิธีที่ง่าย และเก่าแก่ที่สุดคือการต้มรากกับน้ำเปล่า อาจมีรสชาติขมมากกว่าชาที่ทำมาจากใบหรือดอก โดยปัจจุบันในประเทศที่มีการอนุญาตการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ได้มีการผลิตรากกัญชาเพื่อการรักษาในรูปแบบที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image060-1024x640.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image058.png)
รากกัญชาที่กำลังขยาย 35 เท่า (ด้านซ้าย) และ 140 เท่า (ด้านขวา) จากจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (3D Digital microscope)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image062.png)
![](http://tsen.in.th/wp-content/uploads/2021/10/image064.png)
รากกัญขาที่กำลังขยาย 150x (ด้านซ้าย) และ 300x (ด้านขวา) จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (FE-SEM 8230)
เอกสารอ้างอิง
[1] https://mgronline.com/infographic/detail/9620000020873
[2] https://www.cannhealth.org/content/5228/cannabis-root
[3] http://tsen.in.th/cannabis-under-the-scanning-electron-microscope/
[4] https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2
[5] https://www.medcannabis.go.th
[7] http://old-book.ru.ac.th/e-book/b/BO433(48)/BO433(48)-4.pdf
[8] https://www.cannhealth.org/content/1133/thc-and-cbd
[9] http://dmsic.moph.go.th/dmsic/admin/files/userfiles/files/D2S1_Supapornpdf
นายณัฐพงศ์ วงศ์ปัญญา
เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ (Microscopy Laboratory)
ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ (NCTC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)